วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556



- อ่าน: 31606 - หมวดหมู่: วิดีโอ ออดิโอ
DivX Plus เป็นโปรแกรมดูหนังฟังเพลงระบบ DivX ที่ให้ภาพคมชัดและเสียงชัดเจน โปรแกรมประกอบไปด้วยโปรแกรมย่อยอีก 4 โปรแกรมด้วยกัน คือ DivX Plus Player ที่ใช้เพื่อเปิดดูไฟล์หนังที่ใช้งานระบบ DivX เช่นไฟล์ AVI, DIVX, MKV, MP4, MOV, WMV ฯลฯ, DivX Plus Web Player ที่ใช้ช่วยดูหนัง Streaming ระบบภาพ HD และระบบเสียง 5.1 Surround, DivX Plus Converter ที่จะช่วยให้เราสามารถแปลงไฟล์ DivX ให้เป็นไฟล์ทั่วไปที่สามารถนำไปดูด้วยโปรแกรมทั่วไปได้, DivX Plus Codec Pack เป็น codec ที่จำเป็นสำหรับการเปิดไฟล์ DivX บนเครื่อง ทำให้เราสามารถเปิดดูไฟล์หนัง DixV และแปลงไฟล์ได้
DivX Plus เป็นโปรแกรมดูหนังฟังเพลงระบบ DivX ที่ให้ภาพคมชัดและเสียงชัดเจน โปรแกรมประกอบไปด้วยโปรแกรมย่อยอีก 4 โปรแกรมด้วยกัน คือ DivX Plus Player ที่ใช้เพื่อเปิดดูไฟล์หนังที่ใช้งานระบบ DivX เช่นไฟล์ AVI, DIVX, MKV, MP4, MOV, WMV ฯลฯ, DivX Plus Web Player ที่ใช้ช่วยดูหนัง Streaming ระบบภาพ HD และระบบเสียง 5.1 Surround, DivX Plus Converter ที่จะช่วยให้เราสามารถแปลงไฟล์ DivX ให้เป็นไฟล์ทั่วไปที่สามารถนำไปดูด้วยโปรแกรมทั่วไปได้




DivX Plus DivX is a music system that delivers crisp and clear sound. The program consists of a sub-program, 4 programs with the DivX Plus Player is used to play back movie files use DivX files, such as AVI, DIVX, MKV, MP4, MOV, WMV, etc., DivX Plus Web Player for help. Streaming movie HD picture and audio 5.1 Surround, DivX Plus Converter allows us to convert DivX files to files that can be viewed by the general.

Free DivX Plus Software includes everything you need to play, create, and stream all the most popular digital video formats. Transfer video to a DivX Certified TV, tablet or mobile phone, and stream your video collection to any DLNA-compatible device. Use Converter to create DivX, AVI, MKV, and MP4 videos. Watch video in Player or Web Player with subs, audio tracks, etc. Use Codec Pack to play/create DivX video with 3rd party players and editing tools.

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

WinSnap 1.1.10 (Lastest Free Version)


โพสต์เมื่อ วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เวลา 11:12:13
WinSnap is a small enhancement utility for taking and editing screenshots with eye candy drop shadows, powerful image processing and auto-save features
 
WinSnap เป็นโปรแกรมจับภาพหน้าจอ (Screen Capture) ที่มีความสามารถในแบบที่หลายโปรแกรมไม่มี นั่นคือการจับภาพและใส่เงา + Effect รูปแบบต่าง ๆ เข้าไปในภาพ ปกติเวลาเราจับภาพหน้าต่างใด ๆ บน Windows เราจะได้ภาพแบน ๆ ไม่มีมิติ แต่โปรแกรมนี้สามารถใส่เงาหรือ Effect อื่น ๆ ทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวาได้ นอกจากนั้นโปรแกรมยังมีขนาดเล็ก พกพาใส่ Flash Drive ได้สบาย ๆ
เวอร์ชันปัจจุบันคือ 3.xx แต่เป็น Shareware (ไม่ฟรี) เวอร์ชันที่นำมาให้โหลดกันนี้คือ 1.1.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันฟรีเวอร์ชันสุดท้าย ยังสามารถใช้งานได้ดีกับ Windows XP แต่กับ Windows Vista หรือ 7 อาจจะใช้งานไม่ได้ดีนักหากเปิด Aero Effect (ผมลองกับตอนปิด Aero พบว่าใช้งานได้ดีครับ)
ด้านล่างนี้เป็นภาพตัวอย่างโปรแกรม Paint ที่จับภาพด้วย WinSnap ครับ จะสังเกตเห็นเงารอบหน้าต่างโปรแกรม Paint ซึ่งช่วยให้ภาพที่จับมาได้นั้นดูมีความน่าสนใจมากขึ้น
winsnap2.png

วิธีการใช้ Snagit โปรแกรมจับภาพหน้าจออย่างละเอียด

<< Snagit Tutorials >> 
เขียนโดย คุณ ตี๋บ้านบึง
 
ผมกำลังศึกษาวิธีการใช้ Snagit อย่างละเอียด  จึงขออนุญาตินำมาเผยแพร่สำหรับมือใหม่โดยเฉพาะ  แต่มือเก่าก็สามารถนำไปใช้ดูเพิ่มเติมได้ครับ  ทั้งหมดนี้ผมเรียบเรียงมาจาก Snagit Tutorials ของเว็บผู้ผลิตครับ  รวมทั้งอ่านจาก Help ประกอบไปด้วย  ยาวพอดูเหมือนกัน  ผมจะทยอยลงมาให้แฟนนานุแฟน (ขอยืมสำนวนต่วยตูน) ทั้งหลายได้ศึกษาไปพร้อมกับผมนะครับ  ตามสไตล์ของผมครับ  คือ สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ  ภาษาประกิตเขาว่า Simplicity is the best  คติของผม  ยากๆไม่  ง่ายๆทำ  เหอๆๆๆ

Tutorial ชุดนี้สำหรับเวอร์ชั่น 7 ขึ้นไป  แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
1. Capture Tutorials
2. Edit Tutorials
3. Organize Tutorials


ผมจะเริ่มจากภาคแรกก่อน Capture Tutorials  เริ่มบทเรียนแรกเลยครับ ...แอ่น แอน แอ๊น....

บทเรียนที่ 1 ภาพรวมของโปรแกรม แบ่งออกเป็น 5 ส่วนดังนี้

1. Capture Profiles -- เป็นการจับภาพสำเร็จรูปที่โปรแกรมจัดเตรียมให้พร้อมใช้งานในลักษณะต่างๆกัน
2. Capture Settings -- คือการตั้งค่าและเลือกคุณสมบัติต่างๆของการจับภาพให้เหมาะสม  และตรงกับความต้องการของเราครับ
3. Capture Button -- คลิกเพื่อจับภาพหรือจะใช้ Hot Key  โดยค่าดีฟอล์ทคือ Shift+Ctrl+P เราสามารถจะเปลี่ยนค่านี้เป็นปุ่มอะไรก็ได้
4. Edit Tab -- โหมดเครื่องมือสำหรับการตกแต่งภาพทั้งหมดของโปรแกรม  เมื่อคลิกเข้าไปจะมี 3 หมวด  คือ Editor, Studio
& Batch Conversion Wizard

5. Orgainize Tab -- เป็นเครื่องมือในการจัดการภาพที่จับมาจากหน้าจอ  เพื่อนำไปใช้งานตามประเภท  แบ่งเป็น Catalog Browser, Web Page Creator & Snagit Printer Capture
ดูตามรูปไปก่อนนะครับ  แล้วเดี๋ยวค่อยเข้าไปเจาะลึกกันในแต่ละส่วนต่อไป




บทที่ 2 คุณลักษณะของการจับภาพในแบบประเภทต่างๆ

มาดูรายละเอียดในส่วนของ Capture Profiles  ซึ่งเป็นโหมดการจับภาพสำเร็จรูปดังที่กล่าวมาแล้วครับผม  เจ้า Capture Profiles นี้ดูจากรูปแล้วจะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ

1. ฺBasic Capture Profiles -- เป็นการจับภาพที่เราใช้มากที่สุดหรือเป็นประจำในการจับภาพ  มี 6 ชนิดให้เลือกใช้
2. Other Capture Profiles -- เป็นการจับภาพที่ใช้งานรองลงมาจากข้อ 1  มี 6 ชนิดเช่นกันครับ

ส่วน My Profiles และ Imported Profiles นั้นเป็นชนิดการจับภาพที่เราสร้างขึ้นจากส่วนผสมและการตั้งค่านอกเหนือจากทั้ง 2 ข้อดังกล่าว  จึงจะกล่าวถึงในภายหลัง



และนี่คือรูปตัวอย่างในแต่ละ Profile ของ Basic Capture



Other Captures
ผมบอกตามตรงว่า Capture Profiles ภายใต้หัวข้อนี้  ผมลองใช้แค่ 2 ชนิดเท่านั้น  คือ A Freehand Region และ Text from a Window  ที่เหลือยังไงผมจะลองดูแล้วจะโพสต์อีกครั้งภายหลังครับ



ตัวอย่างรูปที่จับ  อย่างที่บอกครับ  ตอนนี้ผมใช้แค่ 2 อย่างรูปเลยมีแค่นี้



อย่าลืมนะครับ  หลังจากที่คุณใช้โปรแกรมจับภาพแล้วปิดโปรแกรมไป  เมื่อเปิดใหม่มันจะจำ Profile ครั้งหลังสุดที่คุณใช้ก่อนที่จะปิดโปรแกรม  ดังนั้นเมื่อคุณจะเริ่มใช้มันจับภาพ  ควรจะเช็คก่อนว่ามันกำลังอยู่ใน Profile ไหน

มาตอนนี้เราจะกล่าวถึงรายละเอียดในส่วนการตั้งค่า Capture Setting  ซึ่งเป็นหัวใจของการจับภาพ  ทำให้รูปที่เราจับมาเป็นแบบที่เราต้องการ  ส่วนประกอบในหัวข้อนี้แสดงอยู่ในรูปครับ



ในส่วนที่ 1  Capture Profile คือรูปแบบการจับภาพที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนแรก

ส่วนที่ 2  Hotkey คือคีย์ลัดที่เรากำหนดขึ้นเองในการสั่งงานจับภาพ  เราสามารถเปลี่ยนแปลงโดยการเลือกที่เมนู Tools >> Program Preferences ดังรูป



หัวข้อที่ 3  Capture Mode แบ่งเป็น 4 ชนิด  ซึ่งเราสามารถเลือกได้โดยการคลิกที่ไอคอน

1. ภาพ (Image Capture)
2. ตัวหนังสือ (Text Capture)
3. ภาพเคลื่อนไหว (Video Capture)
4. เว็บเพ็จ (Web Capture)



หัวข้อที่ 4  Input & Properties  ดูรายละเอียดตามภาพเลยครับ



หลังจากเราได้ทราบว่าในส่วน Input มีรายละเอียดอะไรแล้ว  เราก็มาดูรายละเอียดในส่วนของ Properties กันต่อไปครับ

รูปที่ 1 ของ Input Properties ประกอบด้วย General & Fixed Region Tab



รูปสุดท้ายของ Input Properties มีอีก 3 Tabs ด้วยกัน  คือ Menu Scrolling & Scanner & Cameras Tab



จาก 2 รูปที่ผ่านมา  เราจะเห็นว่า Input Properties Dialog box จะมีทั้งหมด 5 Tabs ให้ปรับใช้  ถ้าอยากจะลองใช้ก็ปรับใช้ดูนะครับ  แต่ถ้าไม่ใช้ก็ไม่เป็นไร  เพราะส่วนมากโปรแกรมมันก็ตั้งค่า Default มาให้เราอยู่แล้ว

มาดูหัวข้อที่ 5 กันครับ  Output Properties
ในส่วนนี้คือการนำภาพที่ได้จากการจับภาพมาใช้  ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำภาพที่ได้ไปทำอะไร  โดยมีรายละเอียดตามรูปซึ่งผมจับภาพมาจาก Help  พร้อมทั้งใส่รายละเอียดภาษาไทยอย่างคร่าวๆว่า แต่ละแบบนั้นจะนำไปใช้แบบไหนครับ

แต่ง LOMO DREAMLIGHT PHOTO EDITOR


     เอาใจคนรักภาพแบบโลโม่อีกแล้ว  หรืออาจจะไม่ใช่ โลโม่  แต่เป็นอันว่าแต่งให้สวยเหมือนภาพข้างบนล่ะกัน  อืม ว่าแต่ต้องหาคนสวยๆ เหมือนข้างบนนะ  ถึงจะสวยเหมือน  โปรแกรมแต่งภาพที่เรานำมาทำวันนี้ ก็โปรแกรมเดิมๆ นั่นคือ DreamLight Photo Editor     ดูเหมือนว่าโปรแกรมนี้จะฟรี ดาวน์โหลดมาใช้ได้ไม่จำกัดอายุขั้นต่ำในการดาวน์โหลดมาใช้งาน ถึงคุณจะอายุเท่าไหร่ คุณก็สามารถแต่งรูปสวยๆ ได้ มาเริ่มแต่งสวยกันเลย






อันดับแรกมองไปที่ปุ่ม Open มันคือปุ่มเปิดภาพ เขาไม่ได้ติดให้โก้เฉยๆ นะ  คลิกเข้าไป แล้วเปิดภาพที่เราจะนำมาแต่งสวยด้วย DreamLight Photo Editor

หน้านี้ไม่ยาก  ทำตามตัวเลขก็ได้
1. คลิกที่คำว่า Color
2. เลือกแม่แบบภาพสวยๆ ตามตัวอย่างที่ต้องการ  สวยทุกภาพแหล่ะ  ถ้าคนสวยอยู่แล้ว
3. คลิก Change Color ถ้าต้องการเปลี่ยนสีภาพ  แต่ผู้เขียนไม่เปลี่ยน เพราะนางแบบผู้เขียนสวยอยู่แล้ว  ภาพไหนก็สวย
4. เมื่อถุกใจ ใช้เธอเลย ก็ Apply  ซะ  จากนั้นก็ Save เก็บไว้ที่กล่องดวงใจ Notebook เราไง

เสร็จแล้ว ภาพแบบโลโม่ๆ ด้วย DreamLight Photo Editor
บอกแล้ว ยังไงก็ยังสวย

Photoscape คืออะไร โฟโต้สเคป คือ โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ และทำภาพเคลื่อนไหว

Photoscape คืออะไร
Photoscape คือโปรแกรมแต่งรูปภาพที่ใช้งานง่าย และมีเครื่องมือสาหรับแต่งภาพครบครัน ที่สาคัญเป็นโปรแกรมฟรีอีกด้วย โปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่กินทรัพยากรของเครื่องมากเมื่อเทียบกับโปรแกรมแต่งภาพอื่น ปัจจุบันโปรแกรม Photoscape มีเวอร์ชั่นภาษาไทย ซึ่งทำให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น คุณสมบัติของ Photoscape นอกจากใช้ตกแต่งภาพแล้ว ยังสามารถทำภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหว (GIF Animation) ได้อีกด้วย

Photoscape คืออะไร โฟโต้สเคป คือ โปรแกรมตกแต่งรูปภาพ และทำภาพเคลื่อนไห
Ulead  Video  Studio 9
Ulead Video Studio  เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่มีการใช้งานไม่ยากจนเกินไป  เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้งาน หรือผู้ที่มีประสบการณ์ตัดต่อวีดีโอมานาน  เพราะโปรแกรมนี้มีเครื่องมือต่างๆสำหรับตัดต่อวีดีโออย่างครบถ้วน 
    โปรแกรม Ulead มีการทำงานเป็นขั้นตอนที่ง่าย  เริ่มแรกจับภาพวีดีโอจากกล้องหรือว่าดึงไฟล์วีดีโอจากแผ่น VCD/DVD เข้ามา  จากนั้นก็ตัดแต่งวีดีโอ  เรียงลำดับเหตุการณ์  ใส่ทรานสิชั่น (transtion - เอ็ฟเฟ็กต์ที่ใส่ระหว่างคลิปวีดีโอ ทำให้การเปลี่ยนคลิปวีดีโอจากคลิปหนึ่งไปยังอีกคลิปหนึ่งน่าดูยิ่งขึ้น)  ทำภาพซ้อนภาพ  ใส่ไตเติ้ล  ใส่คำบรรยาย แทรกดนตรีประกอบ  ซึ่งส่วนต่างๆ เหล่านี้จะแยกแทร็คกัน  เมื่อทำเสร็จแล้วขั้นตอนสุดท้ายก็คือ การเขียนวีดีโอลงแผ่
Audacity เป็นโปรแกรมปรับแต่งเสียงที่สามารถบันทึก เล่น และผสมเสียงหรือทำ effect ด้วยฟิลเตอร์ต่าง ๆ คุณสามารถแก้ไขเสียงด้วยการ cut, copy และ paste ทั้งยัง undoได้อย่างไม่จำกัด คุณสามารถผสมเสียงหลาย ๆ track เข้าด้วยกัน และบันทึกเป็นไฟล์เสียงได้หลายฟอร์แมต เช่น WAV, Ogg Vorbis และ AIFF หรือใช้ฟอร์แมตส่วนตัวของ Audacityเพื่อการปรับแต่งที่มีประสิทธิภาพ Audacity สามารถรองรับฟอร์แมต MP3 โดยใช้ LAME MP3 encoder ภายนอก Audacity มี amplitude envelope editor, spectrogram mode ที่ปรับแต่งได้ และ frequencyanalysis window สำหรับการใช้งานวิเคราะห์เสียง Audacity มี effect ที่มีประโยชน์เช่น เพิ่มเบส, Wahwah และกำจัดเสียงรบกวน Audacity เป็นโปรแกรม
ที่เร็วและเสถียร ทำงานได้ทั้งบน Windows, Linux และ Mac OS X
เงินซุปเปอร์ หรือชื่อเต็มว่า Superannuation คือเงินเพิ่มเติมพิเศษที่นายจ้างจะจ่ายให้กับกองทุนคล้ายๆกับ สวัสดิการสังคม ซึ่งพนักงานทุกคนที่ทำงานได้รับค่าจ้างเกินกว่า 150 ดอล ต่อสัปดาห์ จะได้รับ 9% ของรายได้ทั้งหมดในสัปดาห์นั้นๆ

9% นี้ไม่ใช่เงินที่หักจากค่าจ้างของพนักงาน แต่เป็นเงินที่นายจ้างจะต้องจ่ายเพิ่มเติมให้

อย่างไรก็ตามเงิน Super นี้ จะขอคืนได้ ก็ต่อเมื่อประสงค์จะออกจากประเทศออสเตรเลียอย่างถาวร หรือเกษียรอายุการทำงาน

ปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการด้านกองทุน Super นี้หลายสิบบริษัท (ถ้าไม่ว่าร้อย) ลูกจ้างสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการที่ไหน หากลูกจ้างไม่ได้แจ้งความจำนงค์พิเศษต่อนายจ้าง โดยปกตินายจ้างก็จะใช้บริการจากบริษัท Super ที่ทางบริษัทเลือกให้

ตัวผมเองตอนนี้ มีเงินซุปเปอร์อยู่ในหลายบริษัท (บริษัทละนิดละหน่อยกระปริบกระปรอย) เพราะแต่ละหน่วยงานที่ผมทำงาน เขาก็ใช้ซุปเปอร์ต่างกันไป สมัยก่อนผมไม่ค่อยรู้เรื่องซุปเปอร์เท่าไหร่ เลยให้เขาเลือกให้

นี่ก็กะว่าครึ้มอกครึ้มใจเมื่อไหร่ จะไปทำเรื่องย้ายเงินซุปเปอร์มารวมไว้ที่เดียว เวลาทำอะไรทีหลังจะได้จัดการง่ายๆหน่อย 
จากคุณ: ดอส  dos@aussiethai.com [11 ก.ย. 50 - 15:10:32]
กระบวนการฟอร์แมต (Format) คืออะไร ? 
กระบวนการฟอร์แมต คือกระบวนการในการจัดรูปแบบของสื่อ 
ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ เช่น แผ่นดิสก์เก็ต ฮาร์ดดิสก์ ให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับระบบฮาร์ดแวร์ที่ใช้ 
(หมายถึง ชนิด ขนาด ความจุ ของ Drive ที่เป็นตัวอ่าน-เขียน) 
ให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับระบบปฏิบัติการที่ใช้ 
เช่น DOS Windows OS2 Unix เป็นต้น 
เพื่อให้สื่อเหล่านั้นสามารถ อ่าน-เขียนข้อมูลได้ถูกต้อง 
หรืออีกนัยหนึ่ง กระบวนการฟอร์แมต เป็นกระบวนการในการ 
จัด เตรียมพื้นที่ในการเก็บข้อมูลบนแผ่นดิสก์เก็ต หรือ ฮาร์ดดิสก์ 
กล่าวคือแผ่นดิสก์เก็ต หรือ ฮาร์ดดิสก์ ใหม่ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการฟอร์แมตมาก่อน จะมีลักษณะเหมือนเป็นแผ่นกระดาษเปล่าๆที่ 
ไม่มีเส้นบรรทัด เมื่อผ่านกระบวนการฟอร์แมตแล้ว พื้นที่ว่างเหล่านั้นจะถูกแบ่งออกเป็นช่องใหญ่ ซอยย่อยออกเป็นช่องเล็ก ชึ่งใน 
ทางเทคนิค เรียกว่าเป็นการแบ่ง แทร็ก (Track) และ เซ็คเตอร์ (Sector) เพื่อใช้เป็นช่องในการจัดเก็บข้อมูลต่อไป
ในปัจจุบันการเผยแพร่เอกสารในรูปแบบไฟล์ .pdf (Portable Document Format) เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากทั้งในเว็บเพจ ทางอีเมล์ หรือ CD-ROM เนื่องจากไฟล์ชนิดนี้ไม่ว่าจะเปิดใน OS ใดก็ตาม เอกสารจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ ไม่ต้องกังวลเรื่องฟ้อนต์ ไม่ต้องกังวลเรื่องเวอร์ชั่นของโปรแกรมที่จะเปิด มีการรักษาความปลอดภัยที่ดีพอ เช่น ป้องกันการเปิดไฟล์ ป้องกันการพิมพ์ ป้องกันการคัดลอกข้อความ เป็นต้น
โปรแกรมสำหรับสร้างไฟล์ .pdf มีหลายโปรแกรม แต่โปรแกรมที่มีขนาดเล็กและน่าสนใจคือ FinePrint pdfFactory Pro รุ่นที่ใช้บน Windows 9x มีขนาดเพียง 1.2 เมก. และรุ่นสำหรับ Windows 2000/XP มีขนาด 1.6 เมก. ในการใช้งานโปรแกรมจะไม่มีปัญหาเรื่องการแสดงผลภาษาไทย การพิมพ์ภาษาไทยก็สามารถพิมพ์ได้ปรกติ ไม่ต้องพิมพ์แบบ Print as image การคัดลอกตัวอักษรภาษาไทยจากไฟล์ แล้วนำไปวางใน word ก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน การรวมเอกสารในไฟล์ .pdf ก็ทำได้ง่าย เช่น ต้องการทำเอกสารที่มีข้อมูลจาก Word และ Excel อยู่ในไฟล์เดียวกัน ก็สามารถทำได้เพียงแค่พิมพ์เอกสารจาก Word แล้วพิมพ์เอกสารจาก Excel ข้อมูลจากทั้งสองโปรแกรมก็จะรวมอยู่ในไฟล์เดียวกัน หรือจะพิมพ์งานจากโปรแกรมต่างๆ บน Windows รวมอยู่ในไฟล์ .pdf เดียวกันก็ทำได้อย่างง่ายดาย
โปรแกรมนี้เมื่อติดตั้งเสร็จ ก็จะสร้างรายการเครื่องพิมพ์เพิ่มเข้ามาหนึ่งรายการ คือ "FinePrint pdfFactory Pro" เมื่อต้องการสร้างไฟล์ .pdf เพียงสั่งพิมพ์เอกสารจากโปรแกรม เลือกเครื่องพิมพ์เป็น "FinePrint pdfFactory Pro" แล้วบันทึกข้อมูล ก็จะได้ไฟล์ .pdf แล้ว
ในการสร้างไฟล์ .pdf สามารถลบหน้าเอกสารที่ไม่ต้องการ หรือแทรกหน้าเอกสารว่างได้ มีระบบรักษาความปลอดภัย ป้องกันการเปิดไฟล์ ป้องกันการทำคัดลอก ป้องการการพิมพ์เอกสาร เป็นต้น
4 มิถุนายน 2546
foxit  โปรแกรมอ่านไฟล์ .PDF เอกสารอ่ะครับ คล้าย ๆ กับ Adobe Reader

คิดว่าที่เค้าลงไว้เพราะ 1 มันประหยัดเนื้อที่ HD  2 เป็นของ Free

ส่วนตัวคิดว่าใช้ยากกว่า Adobe Reader  นะ

แต่ที่บ้านใช้ Acrobat เจ๋งกว่าเยอะครับ หนักเครื่องกว่าเยอะ ใช้ยากด้วย

แต่ตัวเสริมเยอะแยะครับ
...อ้างอิง http://sz4m.com/b725854
ึคือโปรแกรม บีบอัดไฟล์ ทำได้หลายอย่างครับ

- บีบอัดไฟล์เพื่อลงแฟรชไดร์ หรือแผ่น
- ทำไฟล์พาทเพื่ออัพโหลดลงเว็บแล้วให้คนมาดาวโหลดต่อ ก็ได้อีก
- หรือทำไฟล์หลายๆพาทเพื่อ ไรท์ลงแผ่น2แผ่น เวลาติดตั้งเกมหรือโปรแกรมอื่นๆ ก็ได้อีก
- setup ก็ได้
- เก็บข้อมูลที่เป็นไวรัส ก็ได้ ฮ่าๆแกล้งเพื่อน ให้มันแตกไฟล์ ลง

แต่เกี่ยวกับบีบอัดไฟล์เท่านั้นครับ

เป็นโปรแกรม ที่ทุกๆเครื่องควรมี เช่นเดียวกับ win zip ตั้งแต่สมัย windows98
7-zip ก็ดีอีกตัว 1 เวลาแตก-บีบไฟล์้พบไฟล์เสียน้อยมากๆๆ + เร็วกว่า นิดหน่อย
การอ้างอิง
การบีบอัดขอมูล
การใชงานโปรแกรม WinZip
WinZip คือโปรแกรมชวยบีบอัดขอมูลโดย file ที่ไดจะมีนามสกุล .ZIP ซึ่งมีความสามารถดังตอไปนี้
• บีบอัดขอมูลในดิสกในลักษณะตอแผนได (กรณีแผนเดียวไมพอ)
• บีบอัดขอมูลและสามารถแกะขอมูลออกมาไดในลักษณะอัตโนมัติ
• บีบอัดขอมูลหลาย ๆ file เปน file เดียวกันได
• การบีบอัดขอมูลบางประเภทสามารถบีบอัดไดมากถึง 90%

เริ่มตนใชงาน
การใชโปรแกรม WinZip จะมี option ใหเลือกไดหลายแบบ สําหรับการเริ่มใชงานสามารถได 3 รูปแบบ
ดังนี้
1. เปดโปรแกรม WinZip โดยตรง
2. เปดโปรแกรม WinZip ในรูปแบบ Wizard
3. เปดโปรแกรม Window Explorer จากนั้นเลือก file หรือเลือกกลุม file ที่ตองการคลิกขวาเลือก Add to
Zip
หมายเหตุการเลือก file มากกวา 1 file ใหทําโดยคลิกเลือก file แรกกอนจากนั้นกดปุม shift คางและ
เลือก file ที่ตองการเลือก
การบีบอัดขอมูลโดยผานโปรแกรม Windows Explorer มีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกปุม Start เลือก Programs เลือก Windows Explorer
2. เปดไปยัง Folder ที่ตองการบีบอัดขอมูลดังตัวอยางเลือก D:\Library\data 3. คลิกเลือก file ที่ตองการ

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ในคอมพิวเตอร์, เครื่องพิมพ์เป็นอุปกรณ์ที่ยอมรับผลลัพธ์ ข้อความและกราฟฟิกจากคอมพิวเตอร์ และส่งผ่านสารสนเทศ ไปที่กระดาษตามกระดาษขนาดมาตรฐาน เครื่องพิมพ์บางครั้งขายพร้อมคอมพิวเตอร์ แต่ส่วนใหญ่จะซื้อแยก เครื่องพิมพ์มีแตกต่างในขนาด, ความเร็ว, ความทันสมัยและต้นทุน เครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่มีใช้ในบริษัทขนาดใหญ่ มีราคาสูง แต่พิมพ์ด้วยความเร็วสูงมาก เช่น เอกสาร 300 หน้า สามารถพิมพ์เสร็จใน 20 นาที เครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคาต่ำจะพิมพ์ไม่กี่แผ่นต่อนาที โดยทั่วไป เครื่องพิมพ์ยิ่งแพงใช้ สำหรับการพิมพ์ความละเอียดสูง

เครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สามารถแยกเป็นเครื่องพิมพ์แบบ impact หรือ non-impact โดยเครื่องพิมพ์แบบ impact รุ่นแรกทำงานคล้ายกับ พิมพ์ดีดอัตโนมัติเป็นแบบตีแถบหมึก ในการพิมพ์แต่ละตัวอักษร เครื่องพิมพ์แบบ dot-matrix เป็นเครื่องพิมพ์แบบ impact อีกแบบที่พิมพ์เป็นแถว เครื่องพิมพ์แบบ non-impact ที่รู้จักกันดี คือ เครื่องพิมพ์ ink-jet ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ที่ราคาถูก inkjet ใช้การพ่นหมึกจากตลับหมึกที่ช่วงใกล้กระดาษที่ม้วนขึ้นมา เครื่องพิมพ์เลเซอร์ใช้ แสงเลเซอร์สะท้อนจากกระจก ดึงหมึกไปยังพื้นที่การพิมพ์บนกระดาษ ขณะที่กำลังม้วนเข้ามา

คุณภาพ 4 ลักษณะในการพิมพ์ผู้ใช้สนใจ คือ

สี : สีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้ในการพิมพ์สำหรับนำเสนอและอื่น โดยที่สีเป็นส่วนของสารสนเทศเครื่องพิมพ์ ที่สามารถตั้งค่าการพิมพ์เฉพาะคำและข่าว เครื่องพิมพ์สีจะมีค่าใช้จ่ายแพงกว่า เนื่องจากต้องใช้หมึก 2 ตลับ (สี 1 ตลับและดำ 1 ตลับ) ส่วนผู้ใช้ที่ไม่ต้องใช้สี และต้องพิมพ์งานจำนวนมาก ควรเลือกใช้เครื่องพิมพ์ขาวดำ

ความละเอียด : ความละเอียด (ความคมชัดของข้อความ และภาพบนกระดาษ) ของเครื่องพิมพ์ มักจะจัดเป็นจุดต่อนิ้ว (dot per inch) เครื่องพิมพ์ราคาถูกส่วนมาก สามารถให้ความละเอียด เทียบเท่าตามการใช้งานที่ 600 dpi

ความเร็ว : ถ้าต้องการพิมพ์มาก ความเร็วของเครื่องพิมพ์จะมีความสำคัญ เครื่องพิมพ์ราคาถูกมีความเร็ว 3 ถึง 6 แผ่นต่อนาที เครื่องพิมพ์สีจะช้ากว่า เครื่องพิมพ์ยิ่งแพงความเร็วจะมากขึ้น

หน่วยความจำ : เครื่องพิมพ์ส่วนใหญ่ มีหน่วยความจำขนาดเล็กติดมาด้วย (เช่น 1 MB) ซึ่งสามารถช่วยผู้ใช้ได้ ถ้ามีหน่วยความจำมาก จะช่วยให้พิมพ์ได้เร็วขึ้น เมื่อมีการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ หรือตารางตีเส้นขอบ (เนื่องจากเครื่องพิมพ์ทำงานแบบเดียวกับภาพ)
Flash Drive คืออะไร?
 
Flash Drive (หรือที่หลายคนเรียก Handy Drive, Thumb Drive, USB Drive)
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลหรือไฟล์จากคอมพิวเตอร์ มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการพกพาติดตัว แต่ในขณะเดียวกันมีความจุสูง สามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากตั้งแต่ 2 GB ถึง 16 GB และขนาดความจุข้อมูลก็ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แฟลชไดร์ฟ, แฮนดี้ไดร์ฟ เป็นอุปกรณ์นวัตกรรม IT ที่ในอนาคตทุกคนจะต้องมีและใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เพราะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และมีประโยชน์ที่สำคัญที่สุดคือ:

    •  ความจุข้อมูลสูง ตั้งแต่ 2 GB ถึง 16 GB
    •  ใช้เก็บข้อมูลได้ทุกประเภท ทั้งไฟล์ข้อมูล, เอกสาร, พรีเซ็นเตชั่นสไลด์, เพลง MP3, รูปภาพดิจิตอล, วีดีโอ, และอื่นๆ
    •  สามารถใช้ได้ทันทีกับคอมพิวเตอร์และโน็ตบุ๊ค ทุกเครื่องทุกระบบ
    •  สามารถใช้ได้กับ Windows, Linux, Apple iMac, Apple iBook
    •  สะดวกในการใช้งาน เพียงแค่เสียบ Flash Drive เข้าช่องต่อ USB
    •  ใช้งานง่าย คุณสามารถทำการเขียน/อ่าน/ลบ/แก้ไข ข้อมูลในนั้นได้โดยตรงเหมือนกับฮาร์ดดิสไดร์ฟปกติ
    •  มีความทนทานสูง ทั้งภายในและภายนอก
    •  เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สร้างจากเทคโนโลยีที่มีความทนทานสูงที่สุดในปัจจุบัน Solid-State Storage Technology
    •  เวลาใช้งาน ข้อมูลของคุณจะปลอดภัยไม่ว่าจะเกิดการตกหล่น กระแทก หรือขูดขีด
    •  มีขนาดเล็ก บาง เบา สามารถพกติดตัวได้สะดวก
    •  ใช้เล่นเพลง MP3 ได้ (เฉพาะรุ่นที่มี MP3 Player)



ABOUT MEMORY (FOTOINFO)
บทความโดย คุณ พัลลภ/ 

          แน่นอนว่าอุปกรณ์อย่างหนึ่งของการถ่ายภาพ สำหรับช่างภาพที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ Memory Card หรือการ์ดบันทึกภาพ เพราะถ้าหากขาดเจ้าการ์ดบันทึกภาพนี้แล้ว ก็เหมือนกับกล้องถ่ายรูปแบบฟิล์มที่ไม่ได้ใส่ฟิล์ม การถ่ายภาพก็คงจะถ่ายไม่ได้ แม้ว่าจะมีกล้องราคาหรูเลิศขนาดไหนก็ตาม

          ด้วยความที่มันสำคัญ ดังนั้นวันนี้จึงขอนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องน่ารู้ที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจ้าการ์ดบันทึกความจำตัวนี้ มานำเสนอกัน

 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการ์ดบันทึกภาพ

          การ์ดบันทึกภาพ มีชื่อรุ่นของมันที่เรียกกันว่า การ์ด SD ซึ่งมี 3 รูปแบบด้วยกัน คือ การ์ด SD ความจุมาตรฐาน , SDHC หรือ High-Capacity, SDXC หรือ eXtended-capacity ซึ่งการ์ดแต่ละตัวจะมีการบ่งบอกความเร็วของการ์ด คือ Class ซึ่งความเร็วเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการอ่านข้อมูลในการ์ด เป็นจำนวน MB ต่อวินาที สามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน ดังนี้

          Class 2 มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 2MB/วินาที

          Class 4 มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 4MB/วินาที

          Class 6 มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 6MB/วินาที

          Class 10 มีความเร็วในการอ่านข้อมูล 10MB/วินาที

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการ์ด SD คุณภาพดีแค่ไหนก็ตาม หากคุณภาพของกล้องกับคอมพิวเตอร์ไม่สามารถรองรับการ์ด SD ได้ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
       ส่วนของกล้องบันทึกภาพ การที่มีคุณภาพการ์ด SD เร็วมาก ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ความเร็วในการถ่ายภาพต่อ 1 ชัตเตอร์เพิ่มขึ้น แต่อาจจะทำให้การโอนภาพจากกล้อง สู่ การ์ด SD ไวขึ้นต่างหาก ซึ่งถ้าอยากให้การถ่ายภาพต่อเนื่องเร็วขึ้น จะเป็นที่คุณภาพกล้องที่ต้องล้ำสมัยมากกว่า

          ส่วนของคอมพิวเตอร์ การที่มีการ์ด SD ความเร็วสูง จะช่วยให้ถ่ายข้อมูลภาพลงคอมพิวเตอร์ได้เร็วขึ้น ทว่าก็ต้องดูที่ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ด้วย หากเป็น USB 1.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ล้าหลัง การที่ส่งข้อมูลจากการ์ด SD ได้อย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ายรับอย่าง USB มีศักยภาพรับได้ช้า ก็ถือว่าถ่ายโอนภาพได้ช้าอยู่ดี        1. ฟอร์แม็ตการ์ดด้วยกล้อง ฟอร์แม็ตการ์ดด้วยกล้องถ่ายภาพ ดีกว่าการฟอร์แม็ตโดยใช้คอมพิวเตอร์ เนื่องจากจะทำให้การ์ดทำความรู้จักการทำงานของกล้องโดยอัตโนมัติ
 
          2. รู้ความจุของการ์ด การรู้ความจุของการ์ด จะทำให้สามารถคำนวนได้ว่า การ์ดอันหนึ่ง สามารถถ่ายภาพได้ประมาณกี่ภาพ แม้ว่าในกล้องจะมีการบอกอยู่แล้วว่า สามารถถ่ายภาพที่เหลือได้กี่ภาพ
 
          3. สามารถกู้ไฟล์ภาพจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ หลายคนอาจจะตกใจ เมื่อเผลอลบภาพในกล้องไปโดยบังเอิญ โดยคิดว่า ภาพนั้นคงหายไปแล้ว แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ในคอมพิวเตอร์ก็มีโปรแกรมกู้ภาพเช่นกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อทราบว่าเผลอลบภาพ ก็ควรแกะการ์ดออกมาทันที ห้ามถ่ายภาพเพิ่ม เพื่อไม่ให้ข้อมูลใหม่ มีโอกาสทับข้อมูลเดิมที่หายไปแล้ว
 
          4. หากมีการ์ดหลายอัน ก็ควรทำตำหนิด้วย หากคุณมีการ์ดหลายอัน ก็ควรจะทำตำหนิเล็กน้อยให้รู้ว่า การ์ดไหนใช้ไปแล้ว การ์ดไหนยังไม่ได้ใช้ เพราะถ้าหากเผลอหยิบการ์ดที่ใช้ไปแล้วมาใช้ ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านี้ได้
 
          5. ควรใช้ Card Reader โอนภาพลงคอมพิวเตอร์ การใช้ Card Reader ถ่ายโอนข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ จะเป็นวิธีที่รวดเร็วและปลอดภัยมากกว่าการใช้สาย USB ในการถ่ายโอนข้อมูล เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองแบ็ตเตอรี่ของกล้องได้ และอาจส่งผลต่อความเสียหายของภาพ
 
          6. อย่าลบภาพในกล้อง ขณะที่บันทึกภาพ การลบภาพในกล้อง ขณะที่บันทึกภาพ อาจจะทำให้เสียเวลาในการลบ และอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ทางที่ดีควรซื้อการ์ดในความจุที่สูงจะดีกว่า และควรลบภาพทิ้งได้ หลังจากที่นำภาพลงเข้าคอมพิวเตอร์ไปแล้ว
 
          7. ไม่ควรนำการ์ดบันทึกภาพออกจากตัวกล้องเร็ว ก่อนที่จะนำการ์ดบันทึกภาพออกจากกล้อง ควรตรวจไฟสัญญาณสีแดงหลังกล้องก่อนว่าหยุดการกระพริบแล้ว ถ้าหากดึงออกมาเร็ว อาจจะทำให้ข้อมูลหายได้
 
          8. อย่าตกใจหากการ์ดเสียหาย บางครั้งคุณอาจจะทำการ์ดบันทึกภาพเสียหาย แบบไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ เช่น ทำการ์ดเปียกน้ำ ซึ่งความจริงการ์ดเหล่านี้มีความทนพอสมควร เพียงแค่คุณรอให้การ์ดแห้งสนิทจริง ๆ ก็สามารถนำกลับไปใช้งานได้แล้ว
 
          9. ควรแบ็กอัพไฟล์สม่ำเสมอ เวลาถ่ายภาพอะไรที่สำคัญ ๆ ข้อแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือ ควรสำรองไฟล์ภาพไว้ที่อื่นด้วย เพื่อป้องกันเวลาที่การ์ดบันทึกเสียหาย ก็ยังมีแหล่งสำรองของข้อมูลอยู่
 
          10. ติดรายละเอียดไว้ที่การ์ดบันทึกภาพ เพื่อให้ทราบว่า การ์ดแต่ละอัน บันทึกข้อมูลภาพจากงานอะไร
กล้องดิจิตอล คืออะไร การทำงานของกล้องดิจิตอลกล้องดิจิตอล D-SLR (Digital Single Lens Leflex)มักจะระบุทางยาวโฟกัสของเลนส์ไว้ 2 แบบ คือ ทางยาวโฟกัสที่แท้จริง กับทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากล้อง 35มม. ที่ใช้ฟิล์มขนาด 135 ภาพ ขนาด 24x36 มิลลิเมตร เช่น เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 5-40 มม.
จะเทียบเท่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 25-200 มม. เป็นต้น
 ทางยาวโฟกัสของเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอล SLR มักบอกทางยาวโฟกัส
เป็นค่าทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับกล้องฟิล์ม 135 และระบุตัวคูณทางยาวโฟกัส เช่น 1.7 เท่า เพื่อให้ทราบว่าเมื่อนำเลนส์ไปใช้กับกล้อง
ดิจิตอลจะมีขนาดทางยาวโฟกัสเท่าไร เช่น เลนส์ 50 มม. เมื่อนำไปใช้กับกล้องดิจิตอล 1.5 เท่า จะกลายเป็นเลนส์ขนาด 75 มม. เป็นต้น

ลักษณะของ Image Sensor
ลักษณะของ Effective Pixels
การเลือกซื้อกล้องดิจิตอลหรือการเลือกขนาดความละเอียดของภาพมาใช้งาน จะพิจารณาจากจำนวน Effective Pixels โดยกล้องที่มี
จำนวน Effective Pixels มากมีแนวโน้มว่าจะมีคุณภาพดีกว่ากล้องที่มีจำนวน Effective Pixels น้อย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของ Image Sersor ขนาด Photo detector ความลึกสี ระบบประมวลผล เลนส์ และส่วนประกอบอื่นๆ ด้วยเช่นก
 
กล้องดิจิตอลส่วนใหญ่จะเลือกจำนวน Pixels ในการถ่ายภาพได้หลายค่า เช่น กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล อาจจะเลือกถ่ายภาพได้ที่ 5 ล้านพิกเซล,
3 ล้านพิกเซล, 1 ล้านพิกเซล และ 7 แสนพิกเซล โดยทั่วไปเราสามารถเข้าไปเลือกความละเอียดของภาพได้โดยการเข้าไปที่ Menu (หรือ Setting) แล้วเข้าไปที่ Image Size (หรือ Quality) จะปรากฏเมนูในการตั้งความละเอียดของภาพขึ้น ปัจจุบันกล้องดิจิตอลมีจำนวนพิกเซลที่สูงมากๆ เช่น 12 ล้าน 14 ล้าน จนถึง 24 ล้านพิกเซล

         โดยทั่วไปภาพที่มีจำนวน Pixels มาก จะสามารถนำไปขยายภาพขนาดใหญ่ได้ดีกว่าภาพที่มีจำนวน Pixels น้อยโดยให้ความละเอียดและความคมชัด
ที่ดีกว่า ภาพแตกเป็นสี่เหลี่ยมได้ยากกว่า แต่จำนวน Pixels ที่มากกว่าต้องใช้เนื้อที่ของหน่วยความจำในการเก็บข้อมูลมากกว่าสิ้นเปลืองพลังงานในการ 
ประมวลผลมากกว่า กล้องทำงานช้ากว่า ทั้งการเก็บข้อมูล
และการเรียกดูภาพบนการ์ดเก็บข้อมูลการตั้งความละเอียดไว้สูงสุดอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการบันทึกภาพด้วยกล้องดิจิตอล เรามีวิธีการในการเลือก
ความละเอียดของภาพโดยพิจารณาจากการนำภาพไปใช้งาน
1.1 ถ้าต้องการถ่ายภาพเพื่อส่ง E-Mail หรือใช้ทำ Presentation ในคอมพิวเตอร์ ความละเอียด 1 ล้านพิกเซลถือว่าเพียงพอ
 
1.2 ต้องการไปใช้งานพิมพ์ งานอัดขยายภาพด้วยเครื่อง Printer คุณภาพสูง (Photo Quality) ควรดูว่าจะขยายภาพขนาดเท่าไร จากนั้นเอาขนาดภาพคูณด้วย 300 จะได้ขนาดความละเอียดภาพที่ควรจะตั้ง เช่น ขยายภาพขนาด 4x6 ควรตั้งที่ความละเอียด 4x300, 6x300= 1200x1800 Pixels = 2.16 ล้านพิกเซล ถ้าอัตราขยายภาพสูงมากๆ แต่กล้องไม่สามารถตั้งความละเอียดตามที่ต้องการได้ ก็ควรตั้งความละเอียดไว้ที่ สูงสุดเท่าที่กล้องจะสามารถทำได้ ซึ่งภาพที่ได้อาจจะแตกและมีคุณภาพไม่ดีนัก(เมื่อมองในระยะใกล้มากๆ)
1.3 ใช้งานพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ให้ใช้ขนาดภาพที่ต้องการใช้งานคูณด้วย 150 แต่ถ้าเป็นเครื่อง Inkjet ที่มีความละเอียดสูงมากๆ ต้องคูณด้วย 300